ขออนุญาตสอบถามค่ะ เดิมดิฉันทำงานเป็นผู้จัดการอยู่บริษัทหนึ่ง ต่อมาบริษัทได้เรียกดิฉันไปพูดคุยเพื่อสอบถามหากบริษัทจะย้ายสถานประกอบการ ซึ่งย้ายไปไกลจากเดิม ต้องขับรถไปกลับมากกว่า 50 กม./วัน และมีค่าทางเดินทางที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ดิฉันจึงแจ้งว่าดิฉันไม่สะดวกที่จะเดินทางไปทำหากบริษัทย้ายไปที่ใหม่ ซึ่งยังไม่ได้มีประกาศหรือระบุชัดเจนค่ะว่าจะมีการย้าย แต่ดิฉันรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก เพราะเนื่องจากนายจ้างได้ปรึกษาทนาย และก่อนหน้าดิฉันเคยสอบถามทาง HR และทาง HR เคยแจ้งว่าก่อนหน้าเจ้านายมีแพลนที่จะประกาศแจ้งให้พนักงานทราบว่าจะย้ายสถานประกอบการ แต่พอเรียกดิฉันเข้าไปพูดคุยแล้ว นายจ้างจึงหยุดประกาศไว้ และต่อมา เหมือนนายจ้างไปปรึกษาทางทนายแล้ว ทางทนายน่าจะแนะนำให้นายจ้างเปิดสาขา 2 ของบริษัทค่ะ เพราะเจ้านายได้ทำการแจ้ง HR มาแล้วคร่าวๆว่าเราจะมีสาขาที่ 2 ทั้งที่เดิมบริษัทไม่เคยมีสาขามาก่อนค่ะ ประเด็นที่เกิดขึ้นคือ เมื่อไปศึกษาข้อกฎหมายมา จึงทราบว่าทางเจ้านายอาจจะไปปรึกษาทนายความมาแล้ว ให้มีการเปิดสาขาที่2 เพื่อจะได้สั่งให้พนักงานทั้งหมดย้ายไปทำงานอีกสาขาหนึ่งที่อ้างว่าเปิดใหม่ เป็นสาขาที่เจ้านายอยากจะให้พนักงานย้ายไปแต่แรกค่ะ ทีนี้ดิฉันมีข้อสงสัยว่า หากเจ้านายประกาศให้พนักงานทั้งหมดย้ายสาขาไปที่ใหม่ โดยที่เดิม เจ้านายยังไม่ปิดทำการค่ะ แต่บังคับให้พนักงานย้ายไปทุกคน โดยมีเหตุจูงใจเพราะไม่อยากจ่ายค่าชดเชยการจ้างงานให้กับพนักงาน โดยใช้ช่องว่างทางกฎหมาย เพื่อต้องการบีบให้พนักงานลาออกกันไปเอง เพราะเดินทางไม่สะดวก เมื่อพนักงานลาออกไปแล้วจึงค่อยทำการปิดทำการที่เก่าภายหลัง เพราะค่าเช่าสำนักงานที่เก่าจะถูกกว่าการจ่ายค่าชดเชยให้พนักงานที่ไม่สะดวกเดินทางค่ะ ถ้าหากเป็นกรณีนี้พนักงานไม่เต็มใจที่จะย้ายไปทำงานที่สาขาที่นายจ้างแจ้ง พนักงานจะสามารถเรียกร้องค่าชดเชยตามมาตรา 120 ได้หรือไม่ค่ะ ถือว่าเข้าข่ายมาตรานี้หรือไม่ หรือควรทำอย่างไรดีคะ ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น